วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562
Friendship 6/12
สมาชิก
8.รัฐโรจน์ เดชดาษ (จ๊อบ)
16.เกียรติศักดิ์ วรรณทอง (ทิว)
18.ภัทรดนัย แก้วสาร (น้ำแข็ง)
22.เบญหอม พันธุ์แก้ว (ขิม)
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562
วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2562
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
3 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในอิตาลี
ที่เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำหลักของเมืองเวนิส เป็นจุดเริ่มต้นของการล่องเรือชมเมือง และเป็นจุดที่มีการขนส่งทางน้ำของเวนิสให้เลือกใช้บริการ อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมคลองหลักแห่งนี้คือการล่องเรือกอดโดล่าชมเมืองที่สุดแสนจะโรแมนติกนี้
เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 1300 ปี ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหมู่บ้านประมงที่สวยที่สุด ประกอบด้วย 5 หมู่บ้านน่ารักๆ สีสันสดใสตั้งเรียงรายตามเชิงเขาและหน้าผาสูง มีผลผลิตท้องถิ่นและสินค้าท้องถิ่นขึ้นชื่อให้เลือกชิมและช้อปกันอีกด้วย
เป็นมหาวิหารขนาดใหญ่อีกแห่งของอิตาลี และเป็นมหาวิการแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุด ภายในโดดเด่นด้วยกระจกสีสันสดใสที่ตกแต่งตามผนังโดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซู โครงสร้างอาคารสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิค และสามารถขึ้นไปชมวิวมิลานที่บนหลังคาของมหาวิหารได้ด้วย
อ้างอิงมาจากเว็บ:https://www.talontiew.com/22-top-destinations-in-italy/
5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในฮ่องกง
1.สวนสนุกโอเชี่ยนปาร์ค – Ocean Park
สวนสนุกกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สุดในฮ่องกง รวมเครื่องเล่นเอาไว้มากมาย นอกจากเครื่องเล่นแล้วก็ยังมีการแสดงโชว์ของสัตว์แสนรู้ และสวนสัตว์อยู่ภายในโอเชี่ยนปาร์คด้วย อีกหนึ่งไฮไลท์ยอดนิยมก็คือการนั่ง Cable Car ขึ้นไปชมวิวที่ยอดเขา ระหว่างนั่งก็จะมองเห็นวิวเครื่องเล่นต่างๆพร้อมกับท้องทะเลและภูเขา
2. ฮ่องกงดีสนีย์แลนด์ – Hongkong Disneyland
สวนสนุกชื่อดังของโลก มีทั้งเครื่องเล่น การแสดงโชว์ ขบวนพาเหรดของตัวการ์ตูนดีสนีย์ หากใครพาเด็กๆไปเที่ยวก็ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเหมือนแดนมหัศจรรย์ของเด็กๆเลย ถ้าเข้าไปแล้วก็สามารถอยู่ได้ทั้งวัน และในตอนค่ำก็จะมีการเปิดไฟและโชว์จุดพลุที่ปราสาทเทพนิยายสวยงามมาก
หรือ วิคตอเรีย พีค เป็นที่เที่ยวอันดับหนึ่งที่คนนิยมไปมากที่สุด สามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของเมืองฮ่องกงได้ ซึ่งเมื่อขึ้นรถ Tram ไปยังจุดสูงสุดของยอดเขา The Peak แล้วจะมองเห็นวิวเมืองด้านล่างได้เกือบทั่วทั้งหมด ไม่เพียงแค่ตึกต่างๆยังเป็นอ่าวและสันเขาไกลๆของเกาะอีกด้วย แนะนำให้ไปช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดินเพราะแสงจะสวยและยังรอดูไฟจากตึกต่างๆที่จะเปิดในตอนกลางคืนอีกด้วย
ย่านกินดื่มยาวค่ำคื่นสุดคึกคักของฮ่องกง เป็นแหล่งรวมร้านคาเฟ่ คลับ บาร์ และร้านค้าต่างๆกว่า 100 ร้าน เป็นจุดแฮงเอาท์ยอดฮิตของชาวฮ่องกงที่นัดเจอเพื่อน หรือพบปะสังสรรค์หลังเลิกงาน หากใครอยากลองท่องราตรีของฮ่องกงก็ห้ามพลาดเลย
คนจีนนั้นถือว่าหยกเป็นหินที่เป็นตัวแทนของความสวยงามและความบริสุทธิ์ และมีความเชื่อว่าถ้าพกติดตัวไว้จะอายุยืนและสุขภาพดี เลยทำให้เป็นหินมงคลที่คนฮ่องกงมักจะติดตัวเอาไว้ ก็จึงมีตลาดค้าหยกขนาดใหญ่ มีหยกเกือบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น กำไล สร้อยคอ พวกกุญแจ และหยกคุณภาพดีก็สามารถหาซื้อได้ที่ตลาดแห่งนี้
อ้างอิงมาจากเว็บ: https://www.talontiew.com/17-attractions-in-hongkong/
วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในไต้หวัน
1.วัดหลงซาน (Longshan Temple)
สายบุญทั้งหลายมาเพิ่มแต้มบุญกันหน่อยมั้ย ที่วัดหลงซาน หรือบางคนก็อ่านว่าหลวงซาน เป็นวัดที่ขึ้นชื่อ และศักดิ์สิทธิ์มากที่ไต้หวัน เรียกได้ว่าถ้าใครมาเที่ยวไต้หวัน ก็ต้องลิสวัดนี้เอาไว้ทั้งนั้น เป็นวัดที่นอกจากเรื่องการขอพร เรื่องความสำเร็จ หน้าที่การงาน คนส่วนใหญ่นิยมมาไหว้วัดนี้ ก็เนื่องด้วยความสมหวังในเรื่องคู่ครอง เพราะมีด้ายแดงที่จะช่วยเรื่องคู่
ที่ตั้ง: แผนที่
การเดินทาง: นั่ง MRT แล้วให้ลงที่สถานี Longshan temple (สายสีน้ำเงิน) จากนั้นให้ออกทางออกที่ 1
การเดินทาง: นั่ง MRT แล้วให้ลงที่สถานี Longshan temple (สายสีน้ำเงิน) จากนั้นให้ออกทางออกที่ 1
2.ตึกไทเป 101 (Taipei101)
แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองไทเป หรือไต้หวัน ที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยากมา เพราะตึกไทเป 101 นี้เป็นตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน และสูงเป็นอันดับสองของโลกเลยทีเดียว เป็นที่เที่ยวไต้หวันที่ใครๆ ก็เดินทางมาได้ง่ายๆ เพราะอยู่ในเมือง และสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล แนะนำว่าถ้าใครมาเที่ยวแล้ว ให้ลองขึ้นไปชมวิวที่ชั้นสูงสุดของตึกนี้ดู
ที่ตั้ง: แผนที่
การเดินทาง: นั่ง MRT แล้วให้ลงที่สถานี MRT Taipei 101/World Trade Center Station (สายสีแดง) ออกทางออกที่ 4
การเดินทาง: นั่ง MRT แล้วให้ลงที่สถานี MRT Taipei 101/World Trade Center Station (สายสีแดง) ออกทางออกที่ 4
3.ย่านซีเหมินติง (Ximending)
เอาใจสายช้อปปิ้งกันสักหน่อย กับ “ย่านซีเหมินติง (Ximending)” เป็นอีกหนึ่งย่านที่เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเองแบบง่ายๆ เพราะเป็นย่านที่อยู่กลางเมือง เต็มไปด้วยร้านรวงมากมาย เหมาะกับการมาจับจ่ายใช้สอย เปรียบเหมือนเป็นดังย่านฮาราจูกุของไต้หวันเลยทีเดียว หรือเหมือนกับย่านสยามของไทยนั่นเอง นอกจากจะมีร้านให้ซื้อของ ย่านซีเหมินติงยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านคาราโอเกะมากมาย เชื่อได้เลยว่าเดินทั้งวันก็ไม่เบื่อ
4.บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou Thermal Valley)
นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของเป่ยโถว เป็นจุดที่เราจะสามารถมาชมวิวบ่อน้ำพุร้อนจากภูเขาไฟได้ ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยแร่ธาตุกำมะถัน ที่คนทั่วไปสามารถลงแช่น้ำพุร้อนได้ โดยน้ำในบ่อจะมีอุณหภูมิประมาณ 80-100 องศาเซลเซียส ใครที่อยากลองไปแช่น้ำพุร้อนที่ไต้หวัน ก็ตรงไปที่เป่ยโถวได้เลย
ที่ตั้ง: แผนที่
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Beitou แล้วมาเปลี่ยนสายเป็น Xinbeitou จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Beitou แล้วมาเปลี่ยนสายเป็น Xinbeitou จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้
5.ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)
อยากกินอาหารทะเลสดๆ แบบราคาไม่แพงมาก ต้องไปที่ “ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)” ตลาดปลาขนาดใหญ่ ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่นก็ฟินได้ เพราะมีปลา และสัตว์น้ำอื่นๆ ขายมากมาย ที่สำคัญคือราคาไม่แพง เรียกได้ว่าทั้งคุ้ม และฟินไปพร้อมๆ กัน สำหรับใครที่ไม่ถนัดเรื่องการทำอาหารก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่ตลาดปลาแห่งนี้จะมีบริการปรุงอาหารให้พร้อมสรรพ เรียกได้ว่าเตรียมแต่เงินในกระเป๋า และท้องว่างๆ ไปกินให้ฟินจนพุงกางไปเลย
ที่ตั้ง: แผนที่
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดิน Ximen Station ออกทางออกที่ 3 เดินมาตรงสี่แยก แล้วข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์ เพื่อที่จะนั่งต่อไปยังตลาดปลา ด้วยรถเมล์สาย 642,643,74,286,49 ได้หมด
การเดินทาง: นั่งสถานีรถไฟใต้ดิน Ximen Station ออกทางออกที่ 3 เดินมาตรงสี่แยก แล้วข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์ เพื่อที่จะนั่งต่อไปยังตลาดปลา ด้วยรถเมล์สาย 642,643,74,286,49 ได้หมด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)